Chasing Northern Lights in Finland เส้นทางมหัศจรรย์ แห่งแดนหิมะและแสงเหนือ

หนึ่งใน Bucket List ของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นการได้เห็นแสงเหนือ หรือ Aurora สักครั้งในชีวิต และคงไม่มีที่ไหนเหมาะไปกว่าฟินแลนด์ ดินแดนแห่งหิมะ บ้านเกิดของซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ และแสงเรืองรองกลางฟ้าที่งดงามราวภาพฝัน

ฟินแลนด์ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน แต่ยังมอบประสบการณ์หลากหลายให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำ ทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง เมืองที่สงบแต่มีเสน่ห์ และการเดินทางที่สะดวกจากกรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินตรง โดยมี เฮลซิงกิ เมืองหลวงเป็นจุดเริ่มต้นอันงดงามก่อนต่อเครื่องสู่เมือง Ivalo ที่เราจะเริ่มภารกิจตามล่าแสงเหนือกัน ในเฮลซิงกิ เพียง 1–2 วันก็เพียงพอสำหรับการซึมซับเสน่ห์เมืองนี้อย่างเต็มอิ่ม

Helsinki – ธิดาแห่งทะเลบอลติก

เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็นธิดาแห่งทะเลบอลติก เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก และเป็นเมืองที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมยุโรปตะวันออกและตะวันตก เป็นเมืองเล็กแต่มีชีวิตชีวา ผู้คนก็ดูเป็นมิตร สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วเมือง ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมายให้ถ่ายรูปและเช็คอิน

จัตุรัสรัฐสภา Senate Square

เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ด้านหลังเป็นมหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) มหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเฮลซิงกิที่ควรมาเช็คอิน ตัวอาคารสีขาวหลังคาโดมสีเขียวถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่โดดเด่นสง่างามสุด ๆ

โรงละครแห่งชาติ Finnish National Theatre

ออกแบบโดยสถาปนิก Onni Tarjanne สร้างเสร็จในปี 1902 เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นอร์ดิกในช่วงศตวรรษที่ 19-20 ซึ่งมีความคล้ายศิลปะแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau) สวยงาม ควรค่าการมาเยือน

โบสถ์เทมเปลิเอากิโอ Temppeliaukio Church

หรือโบสถ์หิน (Rock Church) เป็นโบสถ์แบบรูเธอรันที่สร้างอยู่ภายในหินขนาดใหญ่ ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์แห่งความรัก มีความเชื่อว่าเมื่อใครก็ตามที่จุดเทียนอธิษฐานขอพรเกี่ยวกับความรักในโบสถ์นี้แล้วจะสมหวัง

หอจดหมายเหตุแห่งชาติ The National Archives Service of Finland

อีกแลนด์มาร์คหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในเฮลซิงกิ ด้วยบรรยากาศสุดคลาสิคราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย ตื่นตาตื่นใจกับหนังสือนับล้านเล่ม และสถาปัตยกกรรมที่สวยงาม

มหาวิหารอุสเปนสกี้ Uspenski Cathedral

สถาปัตยกรรมรัสเซียเก่าแก่ที่งดงามแปลกตา ตัววิหารเป็นสีน้ำตาลอิฐ ซึ่งเป็นสีสันเฉพาะตัวซึ่งหาดูได้ยาก โดมสีฟ้าอ่อน และยอดโดมเป็นสีทอง ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณีระยิบระยับ

มาร์เก็ต สแควร์ Market Square

ตลาดสดกลางแจ้งที่มีแผงขายของมากมาย เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่น มีสินค้ามากมาย ทั้งอาหาร ผักผลไม้ รวมไปถึงสินค้างานฝีมือ ของที่ระลึกต่าง ๆ ของฟินแลนด์

การเที่ยวใน เฮลซิงกิ สามารถเดินเที่ยว หรือใช้บริการสาธารณะทั้งรถราง รถบัสประจำทาง หรือเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามไปยังเกาะต่าง ๆ รอบ ๆ เมือง หรือใครจะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบ ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน อย่าลืมแวะหากาแฟหรือช็อคโกแล็ตร้อน ๆ ดื่มแก้หนาวในคาเฟ่ น่ารัก ๆ เพราะเฮลซิงกิถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการดีไซน์ของโลกเลยทีเดียว

เดินทางต่อไปยังเมือง Ivalo จุดเริ่มต้นของการล่าแสงเหนือ จะนั่งเครื่องบินหรือรถไฟก็สะดวก Ivalo เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของฟินเเลนด์ ในเขตแลปแลนด์ ที่มีอากาศหนาวเย็นแบบสุดขั้ว หิมะปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ จนทั้งเมืองกลายเป็นเมืองสีขาว สวยงามดุจดั่งเทพนิยาย ซึ่งการล่าแสงเหนือที่สะดวกที่สุดคือการจองที่พักแบบ Glass Igloo ที่มีห้องพักแบบกระจกใส ทำให้เราไม่พลาดเมื่อแสงเหนือปรากฏ เพราะจะมองจากห้องพักได้เลย มีโรงแรมให้บริการหลายแห่ง รวมทั้งมีกิจกรรมนั่งรถสุนัขลากเลื่อน หรือ Husky Safari หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยม เป็นประสบการณ์ตื่นเต้นแปลกใหม่กับสุนัขลากเลื่อนไซบีเรี่ยนฮัสกี้แสนน่ารัก ไปตามทางที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ หรือจะเป็นการนั่งเลื่อนที่ลากโดยกวางเรนเดียร์ หรือจะนั่ง Snowmobile ไปชมกวางเรนเดียร์ก็ได้ กิจกรรมเหล่านี้สามารถจองล่วงหน้ากับทางโรงแรมได้เลย

และเนื่องจากเมืองแต่ละเมืองในฟินแลนด์เป็นเมืองขนาดเล็ก อีกทั้งอากาศที่หนาวมาก การฝากท้องไว้กับห้องอาหารในโรงแรมถือเป็นสิ่งที่ควรทำ และห้องพักของโรงแรมที่นี่ก็มีราคาแพงพอสมควร ส่วนใหญ่จะรวมค่าอาหารทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นเข้าไปในค่าห้องพักแล้ว เกือบทุกโรงแรมจะมีซาวน่าให้บริการ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งของการมาเยือนฟินแลนด์

Aurora Hunting: จริง ๆ แล้ว การล่าแสงเหนือ ก็ถือว่าเป็นการเสี่ยงโชคอย่างหนึ่ง เพราะถ้าฟ้าปิดก็อาจจะไม่เห็น ต้องรออีกในวันถัดไป การไปเฝ้ารอแสงเหนือบนลานหิมะอันหนาวเย็นก็เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าจดจำ เพราะทิวทัศน์รอบ ๆ ก็สวยแบบลืมหนาวไปเลย แต่ถ้าคุณโชคดีก็จะได้นอนดูแสงเหนือจากห้องพักแบบ Glass Igloo อย่างนี้ถือว่ามาถึงฟินแลนด์อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

Tips: Lapland เป็นชื่อเรียกรวมพื้นที่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ มีเมืองหลักคือรอวาเนียมี (Rovaniemi) ซึ่งเป็นจุดชมแสงเหนือที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าสนกึ่งอาร์กติก อากาศหนาวเย็นและมีหิมะเกือบทั้งปี นอกจากนี้จุดเหนือสุดของแลปแลนด์ช่วงฤดูร้อนจะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พระอาทิตย์จะไม่ตกดินเลยเป็นเวลากว่า 73 วัน แต่ในทางกลับกันช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์ก็เคยไม่ขึ้นเลยเป็นเวลากว่า 51 วัน