ArticleCultural ExperiencesEXPLORE

Unearthing the Secrets of Bangkok’s Historic District

ท่องย่านเก่าใจกลางกรุงเทพฯ สัมผัสเสน่ห์ของวันวาน ณ ปัจจุบัน

        จากการจัดอันดับเมืองท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากรุงเทพมหานคร คือหนึ่งในดวงใจของนักเดินทางทั่วโลก และถึงแม้ว่ามหานครแห่งนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลามากน้อยเพียงใด แต่ถ้าหากลองพินิจดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะเห็นว่ามนต์เสน่ห์ดั้งเดิมของกรุงเทพฯ นั้นไม่เคยจางหายไปไหน ยังคงสอดแทรกอยู่ในทุกลมหายใจของชาวเมืองเทพสร้างเสมอมา

ได้เวลามาซึมซับเสน่ห์วิถีเก่าเคล้าใหม่ เที่ยวลัดเลาะไปตามย่านเก่า สำรวจวิถีชีวิตอันทรงคุณค่าที่ยังอุดมไปด้วยความคลาสสิกแฝงอยู่ในอาคารบ้านเรือนโบราณสวยงาม จนได้กลายมาเป็นเสน่ห์ที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน

History: กรุงเทพมหานคร มีความหมายว่า “พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร” โดยนามเดิมที่รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทราอยุธยา มหาดิลก ภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหาสถาน อมรพิมาน อวตารสถิต สักกะ ทัตติยะ วิษณุกรรมประสิทธิ์”  ถือเป็นชื่อเมืองหลวงที่ยาวที่สุดในโลกจนได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness World Records และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “กรุงเทพมหานคร” อย่างเป็นทางการนับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2515 จนถึงปัจจุบัน

ย่านบางรัก - ตลาดน้อย

มาเริ่มต้นท่องเมืองกรุงกันที่ย่านบางรัก – ตลาดน้อย หรือ “ตะลักเกี้ยะ” ชุมชนจีนเก่าแก่ริมเจ้าพระยา อดีตย่านการค้าสำคัญที่ขยายตัวมาจากย่านกุฏิจีนและตลาดสำเพ็ง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมเรือนแถว ครึ่งตึกครึ่งไม้ และอาคารปูนที่ยังคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิม ที่ถึงแม้จะปรับปรุงให้ทันสมัย แต่ยังกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว

บ้านเลขที่ 1

        อาคารประวัติศาสตร์แบบยุโรปยุคนีโอคลาสสิกจากสมัยรัตนโกสินทร์ มีความเก่าแก่มากกว่า 100 ปี บนถนนเส้นเก่าแก่ที่สุดของไทยอย่างถนนเจริญกรุง เป็นบ้านหลังแรกที่มีรหัสไปรษณีย์ขึ้นตรงกับสำนักงานแห่งแรก จึงให้เกียรติยกให้เป็นอาคารหมายเลข 1 นั่นเอง เดิมทีเป็นบ้านของรัชกาลที่ 5 ต่อมาทรงพระราชทานให้แก่ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ บริเวณที่ดินยังถูกแบ่งใช้เป็นโกดังค้าไม้ของ Mr. Louis T. Leonowens นอกจากนี้กรมศิลปากรยังได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าแก่การศึกษาด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอีกด้วย

ที่อยู่: 1 ถ.สี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 263 2500
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 10.00 – 18.00 น.

อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก

        อาคารไปรษณีย์กลางที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในอดีตเคยเป็นสถานกงสุลอังกฤษและที่ว่าการกรมไปรษณีย์โทรเลข มีลักษณะสถาปัตยกรรมสไตล์แบบสากล ซึ่ปัจจุบันเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของไปรษณีย์ไทย และเป็นสำนักงานใหญ่ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เปิดให้เข้าชมโซนจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนของไปรษณีย์ไทย ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สวนดาดฟ้าสาธารณะ และอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือ อนุสาวรีย์สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช อธิบดีผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขพระองค์แรก ที่ตั้งอย่างสง่างามอยู่ด้านหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง

ที่อยู่: 1160 อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 614 7455
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 20.00 น. / เสาร์ 8.00 – 17.00 น. / อาทิตย์ 8.00 – 12.00 น.

เรือนพระยาวิสูตรสาครดิษฐ (กัปตันบุช)

        เรือนโบราณ 2 หลังที่หันหน้าเข้าหาแม่น้ำพระยา ทำหน้าที่บอกเล่าประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 160 ปี ตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำในกรมเจ้าท่า หลังแรกเป็นอาคาร 2 ชั้น สีเหลืองมัสตาร์ด สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก ตกแต่งอย่างประณีต ตั้งชื่อตาม “พระยาวิสูตรสาครดิษฐ” หรือ กัปตัน จอห์น บุช (John Bush) อธิบดีกรมเจ้าท่าคนแรก ผู้วางรากฐานงานที่สำคัญของกรมเจ้าท่าในการค้าขายทางเรือกับชาติตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 4 ในขณะที่อีกเรือนด้านหลัง กลับมีรูปแบบจีนอย่างเด่นชัด ด้วยสีแดงตัดกันอย่างฉูดฉาด จำลองมาตึกเจ้าสัวเส็งและเป็นที่ตั้งของกรมเจ้าท่าในปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณท่าเรือของกรมเจ้าท่ายังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าจ่งเซียนกง (เจ้าแม่กวนอิม) และเป็นจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมากอีกด้วย

ที่อยู่: 1278 ถ. โยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 233 1311
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 8.30 – 16.30 น.

ศาลเจ้าโจวซือกง

        หรือที่ชาวตลาดน้อยเรียกกันว่า “หลวงปูโจวซือกง” เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของชาวจีนฮกเกี้ยนที่อาศัยอยู่ในไทย สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2347 ด้านในศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานของพระเซ่งจุ๊ยจ้อซือ และเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือ บริเวณด้านหน้าศาลเจ้ายังมีท่าน้ำเล็ก ๆ ให้ชมบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยากันอีกด้วย

ที่อยู่: 768 ซ.ภาณุรังษี แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 237 3090
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 18.00 น.

สำนักงานเก่าแบงก์สยามกัมมาจล

        สำนักงานธนาคารแห่งแรกของไทย ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2451 ในนามของ “บริษัทแบงก์สยามกัมมาจลทุนจำกัด” ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น “ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด” เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2482 โดยสำนักงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคารขนาดกลาง 3 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์ผสมผสานกับนีโอคลาสสิก สีเหลืองไข่ไก่ มีความสวยงามประณีตเป็นอย่างมาก ปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการตามปกติ สามารถเข้าไปชมความงดงามภายในอาคารได้เพลิน ๆ

ที่อยู่: 1280 ถ.โยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 237 5001
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 8.30 – 15.30 น.

ศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง

        ศาลเจ้าโบราณศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในอดีตชุมชนแห่งนี้ถือเป็นชุมชนทำเกือกม้าที่โด่งดัง จนเรียกกันติดปากว่า “ศาลเจ้าโรงเกือก” มีชื่อเสียงในฐานะศาลเจ้าที่ประดิษฐานเทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนแคะหรือฮากกา ที่ผสมผสานกลมกลืนกับชุมชนอย่างสวยงาม

ที่อยู่: 1192 ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก เจริญกรุง 24 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 233 8929
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 18.00 น.

รถเต่าโบราณ

        พิกัดห้ามพลาดของตลาดน้อยคือ รถเต่าสีส้มอายุกว่า 100 ปี ที่จอดอยู่ข้างกำแพงปากซอยดวงตะวัน ให้แวะถ่ายรูป พร้อมเดิมชมสตรีทอาร์ตบนกำแพงตลอดสองข้างทาง

ที่อยู่: ซ.ดวงตะวัน ถ.เจริญกรุง 22 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

โบสถ์กาลหว่าร์

        หรือวัดแม่พระลูกประคำ โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกของชาวโปรตุเกส สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค โดดเด่นด้วยยอดแหลมและซุ้มโค้งแหลม ปัจจุบันเป็นโบสถ์หลังที่ 3 แทนสองหลังเดิมที่ผุพัง มีความสำคัญในฐานะสถานที่เก็บรักษา “รูปพระศพของพระเยซู” และ “รูปแม่พระลูกประคำ” จากสมัยอยุธยา ปัจจุบันยังใช้เป็นสถานที่ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาของชาวคริสต์ในไทยอีกด้วย

ที่อยู่: 1318 ซ.วานิช 2 ถ.โยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 266 4849
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 9.00 – 17.30 น.

Heritage Café & Restaurants

ฮงเซียงกง

        คาเฟ่สไตล์จีนในตึกโบราณอายุกว่าร้อยปี ถูกนำมาปรับโฉมใหม่ให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีจุดเด่นสะดุดตาด้วยงานไม้แกะสลัก เฟอร์นิเจอร์จีนโบราณ และผนังปูนเผยลายอิฐ พร้อมรากไม้ปกคลุม ผสานบรรยากาศเก่าและใหม่อย่างลงตัว นั่งชิลกับเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และวิวเจ้าพระยาแบบใกล้ชิด

ที่อยู่: 734-736 ซ.วานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 095 998 9895
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 10.00 – 20.00 น.

Patina Bangkok

        คาเฟ่ลับย่านตลาดน้อยที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังเก่าที่ผสมผสานกลิ่นอายไทย – จีนอย่างลงตัว มีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่โครงสร้างตัวร้าน ผนังและเสาบ้านที่เผยให้เห็นผิวปูนที่ลอกกร่อน ดูเก๋ไก๋มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร มีโซนนั่งชิลและมุมสโลวบาร์ให้นั่งเพลิน

ที่อยู่: 965 ซ.วานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 095 740 1965
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 9.00 น. – 17.00 น.

Mother Roaster

        อีกหนึ่งจุดเช็คอินบ้านเก่าในตรอกศาลเจ้าโรงเกือก ถ่ายรูปกับภาพกราฟิตี้บนกำแพงหน้าร้านที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ ภายในตกแต่งสวยน่านั่ง บรรยากาศเป็นกันเอง เหมาะสำหรับมานั่งจิบกาแฟรสชาติดีฝีมือ​บาริสต้า​วัยเก๋าอย่างคุณยายพิณ ที่ทำเองกับมือในทุกขั้นตอนตั้งแต่ คั่ว​ บด​ ดริฟ ไปจนถึงเสิร์ฟเลย

ที่อยู่: 1172 ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 061 216 2277
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 10.00 น. – 18.00 น.

ก๋วยเตี๋ยวรู

        Street Food รสเด็ดชื่อดังประจำย่าน กับความสูตรดั้ง​เดิม​นับร้อยปี โดดเด่น​ลือชื่อ​เรื่องบะหมี่หมูอบหอม ๆ พร้อมเครื่องเคียงลูกชิ้นปลา ฮือก้วย​ และลูกชิ้นทอดทำเองแบบโบราณ​ ราดน้ำซุปหวานอร่อย ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ

ที่อยู่: 970/1 ซ.เจริญกรุง 22 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 233 1697
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 7.30 – 16.00 น.

ย่านท่าเตียน

        ย่านเก่าแก่ฝั่งพระนคร ใกล้พระบรมมหาราชวัง ในอดีตเคยเป็นที่อยู่ของขุนนางและย่านการค้าสำคัญตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หลายคนมักคุ้นตากับเอกลักษณ์ของตึกสองชั้นสีเหลืองสดใสสไตล์โคโลเนียลของชุมชนเก่าที่ยังมีชีวิต ที่อยู่คู่พระนครมาอย่างนาวนาน รวมไปถึงมีคาเฟ่เก๋ ร้านอาหารริมน้ำ และพิพิธภัณฑ์ให้แวะชมหลายแห่ง

พระบรมมหาราชวัง

        พระบรมมหาราชวังคู่แผ่นดินไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2325 ครอบคลุมพื้นที่ 152 ไร่ แบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน เปิดให้เข้าชมจุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดพระแก้ว หมู่พระมหามณเฑียร พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว อาคารทั้งหมดได้รับการบูรณะให้คงความงดงามเหนือกาลเวลา นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังมีอาคารสำคัญ เช่น ศาลฎีกา ศาลหลักเมือง และกระทรวงกลาโหม เป็นต้น

ที่อยู่: ถ.หน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 8.30 – 15.30 น.

Tip: สำนวน “เจ้าชู้ประตูดิน” มีที่มาจากประตูศรีสุดาวงศ์ (ประตูดิน) เป็นประตูที่เหล่าสาวชาววังใช้สำหรับเข้า – ออกจากฝ่ายในกับภายนอกวัง ตั้งอยู่ถัดจากประตูช่องกุดเข้าไป เหตุที่เรียกว่าประตูดินเพราะมีจอมปลวกอยู่บริเวณประตู ในอดีตหากชายใดต้องการเห็นสาววังผู้งามหมดจด ก็มักจะมาดักเฝ้ารอที่หน้าประตูนี้นั่นเอง

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

        หรือที่รู้จักกันว่า “วัดโพธิ์” พระอารามหลวงชั้นเอกในสมัยรัชกาลที่ 1 ถือเป็นวัดประจำพระองค์ และต่อมาได้รับการบูรณะด้วยสถาปัตยกรรมไทย – จีน ในรัชกาลที่ 3 พร้อมเก็บรักษาจารึกตำราวิชาการไว้หลากหลายแขนง จนได้รับการยกย่องเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทยและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกโดยยูเนสโก ภายในวัดมีจุดเด่นคือ พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ฝ่าพระบาทประดับมุกลายมงคล 108 ประการ และพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล รวมถึงเจดีย์มากที่สุดในไทยถึง 99 องค์ ถือเป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก

ที่อยู่: 2 ถ.สนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 226 0335
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 8.30 – 17.00 น.

ตลาดท่าเตียน

        ตลาดโบราณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง บนถนนมหาราช ภายในตลาดเป็นแหล่งขายอาหารสดและอาหารทะเลแห้ง ผู้คนต่างมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก บริเวณรอบ ๆ ยังมีตึกทรงโบราณเรียงรายหลายหลัง เดินชม ซื้อของ ถ่ายรูปกันได้เพลิน ๆ

ที่อยู่: ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 11.00 – 18.30 น.

Museum Siam

        ตึกเก่าสุดคลาสสิกที่ถูกดัดแปลงจากตึกกระทรวงพาณิชย์ ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่จะพาเราไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีนิทรรศการหมุนเวียนตลอดปี พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ตลาดดนตรี งานคราฟต์ และตลาดสินค้ามือสอง ถือเป็นพื้นที่ที่ช่วยขับเคลื่อนวงการศิลปะไทยให้ก้าวทันยุคสมัย

ที่อยู่: 4 ถนน สนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 225 2777
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: เด็ก 50 บาท / ผู้ใหญ่ 100 บาท

Must Try: กิจกรรมยอดฮิตของย่านท่าเตียนคือ การออกล่าโลเคชั่นถ่ายรูปวัดอรุณฯ ที่ตั้งอยู่อีกฟากของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีจุดถ่ายรูปยอดฮิตอยู่หลายจุด เช่น มุมท่าน้ำบริเวณซอยประตูนกยูง มุมท่าเรือวัดโพธิ์ – วัดอรุณ และมุมถ่ายภาพจากโรงแรมศาลารัตนโกสินทร์ เป็นต้น

Heritage Café & Restaurants

วังจักรพงษ์

        ร้านอาหารริมน้ำสไตล์ชาววัง ให้บริการมื้อค่ำแสนพิเศษแบบเซ็ตเมนูคอร์ส คัดสรรมาอย่างดีคู่กับรสชาติอาหารไทยต้นตำรับ ภายใต้บรรยากาศสไตล์ Domestic Revival ของวังพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรจักรพงษ์ เจ้าฟ้านักแข่งรถชื่อดังระดับโลกของไทยในอดีต ให้ความรู้สึกหรูหราแบบไทยโบราณผสมกับกลิ่นอายของผู้ดีตะวันตก

ที่อยู่: ถ. มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 080 045 7778
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 18.00 – 22.00 น.

River Book Café

        ร้านหนังสือและคาเฟ่สุดน่ารัก ตั้งอยู่ด้านหน้าวังจักรพงษ์ บรรยากาศเงียบสงบ ให้บริการเครื่องดื่มแสนชื่นใจ จิบระหว่างกวาดสายตามองหาหนังสือวรรณกรรมไทยย้อนยุคเล่มโปรดอย่างไม่เร่งรีบ

ที่อยู่: 396 ถ. มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 222 1290
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 10.00 – 18.00 น.

โรงรส

        ร้านอาหารไทย Fine Dining ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับ Michelin Guide มาพร้อมกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหลังร้านที่สามารถมองเห็นพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจนเต็มตา

ที่อยู่: 392/16 ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 096 946 1785
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 11.00 – 22.00 น.

ท่าอรุณ

        อีกหนึ่งร้านอร่อยวิวหลักล้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะพาย้อนอดีตไปสัมผัสกับบรรยากาศไทยย้อนยุค และอาหารฟิวชั่นร่วมสมัย พร้อมดื่มด่ำกับวิวพระปรางค์วัดอรุณฯ สุดงดงามแบบใกล้ชิด

ที่อยู่: 392/61 ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 063 170 4055
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 11.00 – 22.00 น.

หลงเตียน

        Rooftop ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขวัญใจสายชิล มาที่นี่ที่เดียวจบครบ จัดเต็มอาหารไทยต้นตำรับ พร้อมวิววัดอรุณฯ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าที่ยิ่งดึกก็ยิ่งสวยจับใจ มีดนตรีสดบรรเลงอย่างไพเราะตลอดทั้งคืน

ที่อยู่: 246 ถ.ท้ายวัง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 080 856 9492
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 16.00 – 23.30 น.

ฮาเตียน

        คาเฟ่ยอดฮิตตกแต่งในสไตล์โอเรียนทัลผสมผสานกับกลิ่นอายแบบจีน เวียดนามและตะวันตกเข้าด้วยกัน เน้นประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และข้าวของโบราณล้ำค่า ทั้ง 3 ชั้นของร้าน ล้วนมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ให้ความรู้สึกราวกับกำลังอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่เดินชมได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ

ที่อยู่: 4 ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 082 465 5549
เวลาเปิด – เปิด: ทุกวัน 10.00 – 18.00 น.

ย่านสามแพร่ง

        ย่านการค้าเก่าบนถนนตะนาว ฝั่งพระนคร ประกอบด้วย “แพร่งนรา” “แพร่งภูธร” และ “แพร่งสรรพศาสตร์” มีจุดเด่นอยู่ที่ตึกแถว 2 ชั้น สไตล์ไทยผสมโคโลเนียล ทาสีเหลืองอ่อน ตัดกับบานเฟี้ยมสีเขียว ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ชื่อทั้ง 3 แพร่งมาจากวังของบุคคลสำคัญในอดีต ได้แก่ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ และกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ปัจจุบันย่านสามแพร่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมร้านอาหารในตำนานที่ควรค่าแก่การไปลิ้มลอง

ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์

        ซุ้มประตูที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกตั้งตระหง่าน มีประติมากรรมรูปเทพธิดาถือคบไฟประดับอยู่หน้าบัน ด้านหลังก่ออิฐบล็อกสีส้มเป็นฐานสร้างความมั่นคง นับเป็นสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน โดยซุ้มประตูนี้ถือเป็นหลักฐานที่เหลืออยู่ของวังพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวังแห่งนี้ขึ้นในราว พ.ศ. 2444 ต่อมาใน พ.ศ. 2501 และ พ.ศ. 2510 เกิดเพลิงไหม้เสียหายจนหมด จนเหลือไว้แค่เพียงซุ้มประตูวังนี้ไว้ให้เชยชม

ที่อยู่: แพร่งสรรพศาสตร์ ถ.ตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

        พระอารามหลวง ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งตระหง่านอยู่คู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบต้นกรุงรัตนโกสินทร์ผสมกลิ่นอายศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนี หรือพระโต พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์พระร่วงของยุคสุโขทัย อัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การไปทำบุญ ไหว้พระ ทำจิตใจให้ร่มเย็น ด้านหน้าวัดยังเป็นที่ตั้งของเสาชิงช้าที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นหมุดสะดือเมืองกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ถือเป็นแลนด์มาร์คที่เมื่อนึกถึงวัดสุทัศน์แล้ว ก็ต้องมีเสาชิงช้าด้วยเช่นกัน

ที่อยู่: 239 ถ.ดินสอ แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 17.30 น.

วัดมหรรณพารามวรวิหาร

        พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ก่อนจะแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 4 จึงได้รับพระราชทานนามวัด ตามพระนามเดิมของผู้สร้างว่า “วัดมหรรณพาราม” หมายความว่า ห้วงมหานทีที่กว้างใหญ่ ภายในประดิษฐานปูชนียสถานและถาวรวัตถุที่สำคัญไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ หลวงพ่อพระร่วงทองคำ พระประธานปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย องค์พระเป็นโลหะทองคำ มีรอยต่อ 9 แห่ง มีหมุดเป็นเครื่องเชื่อมรอยต่อ ซึ่งหมายถึงความเจริญก้าวหน้า มีความงดงามมากองค์หนึ่งของไทย

ที่อยู่: 261/4 ถ.ตะนาว แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 17.30 น.

ศาลเจ้าพ่อเสือ

        หรือที่ชาวจีนในไทยเรียกกันว่า ศาลตั่วเหล่าเอี้ย ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สร้างโดยกรมหมื่นอุดมรัตนราษี (พระองค์เจ้าอรรณพ พระราชโอรสในสมเด็จพระนั่งเกล้า) เดิมทีตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง จึงได้ย้ายศาลเจ้าพ่อเสือมาที่บริเวณทางสามแพร่ง ณ ถนนตะนาว เป็นศาลเจ้าจีนสายลัทธิเต๋าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งในไทย ด้วยความเชื่อว่า ใครที่มาขอพรจะช่วยให้รอดพ้นจากปัญหาทางธุรกิจและร่ำรวยเงินทองมากขึ้น นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมมาแก้ปีชงกันอีกด้วย

ที่อยู่: 468 ถ.ตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 21.00 น.

Tip: วิธีสักการะ สะเดาะเคราะห์ ต้องใช้ธูป 18 ดอก และเทียนแดงคู่ เป็นเครื่องสักการะ โดยเริ่มจากจุดเทียนแดงคู่ปักไว้ที่จุดปักเทียน จากนั้นให้เวียนไหว้ตามจุดต่าง ๆ แล้วปักธูปลงในกระถางจุดละ 3 ดอก เรียงลำดับตามนี้ เทพยดาฟ้าดิน – เจ้าพ่อใหญ่ – เจ้าพ่อเสือ – เทพเจ้ากวนอู – องครักษ์เจ้าพ่อ 2 องค์ ปิดท้ายด้วยการถวายเครื่องเซ่นแก่เจ้าพ่อเสือ ประกอบด้วย หมูสามชั้น ไข่สด และข้าวเหนียวหวาน เป็นอันเสร็จพิธี

โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ

       โรงพิมพ์เก่าแก่ที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงพิมพ์แห่งแรกของไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปีพ.ศ. 2438 เป็นโบราณสถานขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากรในชื่อ “อาคารบำรุงนุกูลกิจ” ที่แม้เวลาจะผ่านมากว่า 127 ปี แต่ลักษณะภายนอกก็ยังคงความสวยงาม เป็นอาคารหลังคาทรงปั้นหยา สร้างแบบก่ออิฐถือปูนสองชั้นตกแต่งผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมคลาสสิกและสถาปัตยกรรมวิกตอเรีย โดดเด่นด้วยงานปูนปั้นเป็นลวดลายและงานไม้ฉลุลายประดับเหนือหน้าต่างและบานประตูที่ละเมียดละมัย ปัจจุบันเปิดเป็นคาเฟ่สุดชิค Craftsman Roastery ให้ได้มาเพลิดเพลินกับบรรยากาศอาคารเก่า อิ่มอร่อยกับเมนูเครื่องดื่ม ของหวาน และเบเกอรี่ พร้อมเช็คอินถ่ายรูปกับมุมสวย ๆ

ที่อยู่: ถ.บำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 065 234 0044
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 7.30 – 18.00 น.

Heritage Café & Restaurants

บ้านวรรณโกวิท

        ร้านข้าวแช่ในเรือนไทยโบราณอายุกว่า 130 ปี ท่ามกลางบรรยากาศสุดร่มรื่นใต้ต้นละมุดใหญ่ เงียบสงบ มาผ่อนคลายพร้อมอร่อยกับสำรับข้าวแช่แบบชาววังได้เพลิน ๆ

ที่อยู่: 64 ถ.ตะนาว แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 081 922 6611
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 11.00 – 15.00 น.

บ้านยาหอม

        คาเฟ่ย้อนยุคในเรือนไม้โบราณอายุ 100 ปี สไตล์ไทยผสมโคโลเนียล โดดเด่นสะดุดตามท่ามกลางเหล่าแมกไม้เขียวขจี ให้บรรยากาศเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต นั่งจิบกาแฟ ไปพร้อม ๆ กับชื่นชนความงามของตัวบ้านโบราณ

ที่อยู่: 156 ถนนตะนาว แขวง วัดบวรนิเวศ เขตพ ระ, กรุงเทพมหานคร
โทร: 095 764 2768
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 9.00 – 21.00 น.

บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า

        คาเฟ่เปิดใหม่ที่นำเสนอความเรียบง่ายภายใต้บ้านเก่าโบราณที่นำมาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นคาเฟ่สุดชิค และยังเก็บรักษาส่วนดั้งเดิมบางส่วน บรรยากาศร่มรื่นและสบายตา ให้บริการขนมไทยเสิร์ฟในภาชนะลวดลายสวยงาม

ที่อยู่: 47 ถ.ดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 097 229 7021
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 20.00 น. / เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 20.00 น.

ภูธร บาร์

        บาร์ขนมปังปิ้งสูตรโบราณเจ้าดัง หน้าตึกแถวเก่าในแพร่งภูธร มีจุดเด่นอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ ปิ้งขนมปังบนเตาถ่าน และการทำไส้ต่าง ๆ ตามสูตรโบราณไม่เหมือนที่ไหน ทานคู่กับเครื่องดื่มแสนสดชื่น สายหวานทั้งหลายต้องห้ามพลาด

ที่อยู่: 124 ถ.แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 095 118 8554
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – เสาร์ 17.00 – 23.00 น.

ร้านไทยทำ

        ร้านเกาเหลาสมองหมูรสเด็ดหนึ่งเดียวในไทยที่ครองใจนักชิมมากว่า 60 ปี เสิร์ฟสมองหมูนุ่ม ๆ พร้อมเครื่องเกาเหลาจัดเต็มในชามถ้วยโต การันตีความอร่อยระดับเชลล์ชวนชิม

ที่อยู่: 28/1 ถนนแพร่งภูธร แขวง ศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 221 7612
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – เสาร์ 7.00 – 14.00 น.

ร้านอาหารมิตรโกหย่วน

        ตำนานความอร่อยที่อยู่คู่ย่านเสาชิงช้ามาร่วม 70 ปี ร้านตั้งอยู่ในตึกแถวเก่าบนถนนดินสอ ในบรรยากาศย้อนยุคสุดคลาสสิก บริการอาหารไทย – จีน รสชาติจัดจ้านอร่อยเด็ดคงที่ไม่เคยเปลี่ยน

ที่อยู่: 186 ถ.ดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทร: 092 434 9996
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 11.00 – 14.00 น. / 16.00 – 22.00 น.

ย่านกุฎีจีน

        หรือ “กะดีจีน” ชุมชนเก่าแก่ฝั่งธนบุรีที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ในอดีตเป็นชุมชนของเหล่าทหารอาสาโปรตุเกสที่ร่วมรบกับกองทัพไทย เมื่อย้ายมาสร้างกรุงธนบุรีจึงได้รับพระราชทานที่ดินให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมคลองกุฎีจีน ภายหลังมีทั้งชาวไทย จีน ตะวันตก ญวน มอญ ฯลฯ อพยพจากกรุงเก่ามาตั้งถิ่นฐาน เกิดเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรมที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

Tip: เพราะย่านกุฎีจีนเป็นชุมชนหลากหลายเชื้อชาติ จึงมีอาหารการกินที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีชื่อเสียงก็คือ ขนมกุสลาหรือขนมตรุษฝรั่ง ขนมหน้านวล หรือขนมจีนแกงคั่วไก่อาหารโบราณสูตรโปรตุเกส เป็นต้น

วัดอรุณราชวราราม

        หรือ “วัดแจ้ง” พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดโพธิ์อีกฟากฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ประจำกรุงรัตนโกสินทร์ที่งดงาม และมากด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มีจุดเด่นอยู่ที่พระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ศิลปกรรมที่สง่าและโดดเด่นที่สุด ก่อสร้างโดยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์นำเข้าจากจีน มีลวดลายงดงามเป็นของเก่าแก่และหาชมได้ยาก เรียกได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยอย่างแท้จริง

ที่อยู่: 158 ถ.วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 17.30 น.

มัสยิดบางหลวง

        มัสยิดประจำชุมชนมุสลิมนิกายซุนนีที่อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยา เป็นมัสยิดหนึ่งเดียวในไทยที่สร้างขึ้นโดยสถาปัตยกรรมแบบวัดพุทธ ตัวมัสยิดมีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว หลังคาจั่วมุงกระเบื้อง หน้าบันประดับลายปูนปั้นดอกโบตั๋นหรือดอกพุดตาน ดอกไม้ที่นิยมประดับหน้าบันวัดในสมัยรัชกาลที่ 3 แทบจะเหมือนกับวัดไทยทุกประการ จะแตกต่างตรงหลังคาที่ทาสีเขียวและตัวอาคารที่มีสีขาวผ่องทั้งหลัง ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กุฎีขาวนั่นเอง การมีอยู่ของมัสยิดแห่งนี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในชุมชนกุฎีจีนได้เป็นอย่างดี

ที่อยู่: 151 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 225 7612-4
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 17.30 น.

พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน

        พิพิธภัณฑ์ชุมชนที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของเชื่อชาติในย่านกุฎีจีน อาทิ เชื้อสายโปรตุเกส ญวน จีน และชาติอื่น ๆ ที่ได้อพยพเข้ามาในย่านกุฎีจีนในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเฉพาะบุคคลในประวัติศาสตร์ชื่อดังอย่างหมอบรัดเลย์ ก็เคยอาศัยอยู่ที่ชุมชนนี้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านข้าวของเครื่องใช้จริงที่มีอยู่ในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี บริเวณด้านล่างเปิดเป็นโซนคาเฟ่ หรือถ้าใครอยากเห็นวิวกุฎีจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาก็สามารถขึ้นไปบนชั้นลอยเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศกันได้เต็มที่อีกด้วย

ที่อยู่: 271 ซ.วัดกัลยาณ์ แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 081 772 5184
เวลาเปิด – ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 9.30 – 18.00 น.

โบสถ์ซางตาครูส

        หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “วัดกุฎีจีน” โบสถ์คาธอลิกเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2313 โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้พระราชทานที่ดินเพื่อสร้างวัดแห่งนี้แก่ชาวโปรตุเกส แต่เดิมเป็นไม้สักทั้งหลังแต่ถูกไฟไหม้ จึงได้รับการบูรณะใหม่โดยมีโครงสร้างเป็นปูน สถาปัตยกรรมเด่นของเป็นแบบเรอเนสซองส์ผสมนีโอคลาสสิก ส่วนยอดโดมสีแดงนั้นมีความเด่นเป็นสง่า คล้ายคลึงกับโดมของมหาวิหารฟลอเรนซ์ในอิตาลี

ที่อยู่: 112 ซ.กุฎีจีน แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 090 415 3728
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 8.30 – 16.30 น.

Rules: ปัจจุบันโบสถ์ซางตาครูส เปิดใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่อยากเข้าชมภายใน ต้องติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชม 3 วัน และอนุญาตให้ถ่ายรูปตัวอาคารภายนอกได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ภาพวัดเป็นแบ็คกราวด์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

        วัดศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ สร้างโดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ และถวายแด่รัชกาลที่ 3 มีพระวิหารหลวงตามแบบศิลปะพระราชนิยม พระประธานคือพระพุทธไตรรัตนายก (หลวงพ่อโต) ซึ่งสร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดพนัญเชิงในอยุธยา คนไทยโบราณเชื่อว่าการมาไหว้พระที่นี่จะช่วยให้เดินทางปลอดภัยและได้รับมิตรไมตรีที่ดี ดั่งชื่อวัดอีกด้วย

ที่อยู่: 371 ซ.อรุณอมรินทร์ 6 เเขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 086 709 2829
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 17.30 น.

ศาลเจ้าเกียนอันเกง

        ศาลเจ้าจีนฮกเกี้ยนที่สร้างถวายเจ้าแม่กวนอิม ก่อตั้งโดยชาวจีนผู้ติดตามพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 1 ย้ายเมืองหลวง ศาลเจ้าจึงถูกปล่อยให้ทรุดโทรมตามกาลเวลา ก่อนจะได้รับการบูรณะอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยชาวจีนจากมณฑลฝูเจี้ยน นับได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมฮกเกี้ยนที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหลังคาซ้อนกันสองชั้น หน้าบันสามเหลี่ยมหน้าจั่ว หลังคาแอ่นโค้ง งานประดับช่องหน้าต่าง รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังจากเรื่องราวสามก๊กที่ยังมีความสมบูรณ์สวยงาม

ที่อยู่: 230 ถ.เทศบาลสาย แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 7.00 – 17.00 น.

Heritage Café & Restaurants

Thanusingha Bakery House

        ร้านขนมฝรั่งโบราณขึ้นชื่อของกุฎีจีนที่สืบสานต้นตำรับความอร่อยนี้มานานกว่า 5 รุ่น ภายใต้บรรยากาศบ้านไม้สีพาสเทลสวยคลาสสิก มาถึงกุฎีจีนแล้วต้องไปลอง

ที่อยู่: 237 ซ.กุฎีจีน 7 แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 465 5882
เวลาเปิด – ปิด: 10.00 – 17.00 น.

Don’t Miss: ของอร่อยประจำย่านกุฎีจีนคือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็นขนมลูกผสมระหว่างจีนกับโปรตุเกส รสชาติคล้ายขนมไข่ มีส่วนผสมหลักคือ แป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาล นำมาผสมให้เข้ากันแล้วอบในเตาถ่าน จากนั้นก็โรยหน้าด้วยลูกเกด ลูกพลับ ฟักเชื่อม และน้ำตาลทราย ตามสไตล์จีน

เฮโล นมสด

        คาเฟ่และร้านอาหารสไตล์โฮมเมดริมแม่น้ำ เสิร์ฟความอร่อยสูตรโบราณแบบไทย – โปรตุเกสอย่าง ขนมจีนแกงคั่วไก่ ที่เป็นเอกลักษณ์หาทานได้ยากของชุมชนกุฎีจีน พร้อมเมนูเครื่องดื่มและของหวาน น่าทานทุกเมนู

ที่อยู่: 14 ถ.เทศบาลสาย 1 ซ.กุฏีจีน เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 472 5231
เวลาเปิด – ปิด: 10.00 – 18.00 น. หยุดวันอังคาร

ร้านอาหารบ้านสกุลทอง

        ร้านอาหารเรือนไทยเดิมที่ให้บริการแบบ Private Dining Course เน้นเสิร์ฟความอร่อยของเมนูชาววังและสำรับแบบโปรตุเกส ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ อบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนได้มาทานอาหารที่บ้านเพื่อน

ที่อยู่: 219 ซ.กุฎีจีน 3 ถ.เทศบาลสาย แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 062 605 5665
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 10.30 – 17.30 น. (นัดหมายล่วงหน้า)

ย่านเจริญพาศน์ - คลองสาน

        อีกหนึ่งย่านเก่าฝั่งธนบุรี ตั้งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งพระนคร เป็นย่านมีประวัติศาสตร์ยาวนานและทรงเสน่ห์ทางวัฒนธรรมไม่แพ้ฝั่งบางกอก ปัจจุบันยังคงรักษาวิถีชีวิตและบรรยากาศแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ไม่เสื่อมคลาย

พิพิธภัณฑ์บ้านเอกะนาค

        พิพิธภัณฑ์บ้านโบราณจากสมัยรัชกาลที่ 6 ในอดีตเคยเป็นบ้านของ พ.ต.อ.พระยาประสงค์สรรพการ (ยวง เอกะนาค) ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมตำรวจ เป็นบ้านไทยทรงปั้นหยา 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ผสมศิลปะตะวันตกและลายฉลุขนมปังขิง มีหลังคาโปร่งคล้ายพระที่นั่งวิมานเมฆ ปัจจุบันสำนักศิลปะและวัฒนธรรมได้ทำการบูรณะซ่อมแซมบ้านเอกะนาค ให้มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม ทั้งภายในตัวบ้านและภูมิทัศน์โดยรอบ และได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ศูนย์กรุงธนบุรีศึกษา เพื่อเป็นแหล่งรวมความรู้ด้านวัฒนธรรมของกรุงธนบุรีให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษากัน

ที่อยู่: มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซ.อิสรภาพ 15 ถ.อิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 566 6664
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 16.30 น.

สวนสมเด็จย่า

        หรืออุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ย่านนิวาสถานเดิม เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ของสมเด็จย่า พร้อมสักการะพระราชานุสาวรีย์ เข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านจำลองศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์ ชมแผ่นหินแกะสลัก บ่อน้ำโบราณ อาคารทิมบริวาร ศาลาแปดเหลี่ยม ปานะศาลา เดินเล่นสวนริมน้ำ และถ่ายภาพกับมุมสวย ๆ คู่กับสถาปัตยกรรมโบราณจากสมัยรัชกาลที่ 5 ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย

ที่อยู่: ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 437 7799
เวลาเปิด – ปิด: 7.00 – 17.30 น.

ศาลเจ้ากวนอู

        ศาลเจ้าพ่อกวนอูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ประดิษฐานเทพเจ้ากวนอูที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ มายาวนานถึง 280 ปี ว่ากันว่าในอดีตพระเจ้าตากสินเคยมาสักการะองค์เทพเจ้ากวนอูที่ศาลแห่งนี้ด้วย ทำให้เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนมาเป็นเวลานาน เชื่อกันว่าจะช่วยให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและกิจการรุ่งเรือง

ที่อยู่: ซ.สมเด็จเจ้าพระยา 3 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 439 6309
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 18.00 น.

บ้านจีนโบราณทั่งง่วนฮะ

        บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อกวนอู เป็นอาคารเก่าแก่ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก สร้างขึ้นในราวปลายสมัยรัชกาลที่ 2 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนตอนใต้ อาคารหลังนี้ถูกใช้งานในธุรกิจต่าง ๆ มาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่นายทั่งไต้ซิงจะมาบุกเบิกกิจการใหม่คือ โรงงานผลิตน้ำปลาทั่งง่วนฮะ และส่งต่อไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลานจนถึงทุกวันนี้ แต่ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ได้ปิดตัวลง ทำให้สามารถชมและถ่ายรูปความงดงามของตัวบ้านได้จากเพียงด้านนอกเท่านั้น

ที่อยู่: ซ.สมเด็จเจ้าพระยา 3 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

วัดพิชัยญาติการาม

        พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองบ้านสมเด็จเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานพุทธ สร้างโดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ และถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่ 3 มีความโดดเด่นคือ สถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีนสีขาวผ่องสวยงาม ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในยุคนั้น ภายในมีปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุที่สำคัญหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น พระปรางค์ 3 ยอด องค์ใหญ่สีขาวโดดเด่น และอุโบสถศิลปะแบบจีนที่ประดิษฐานองค์พระสิทธารถ หรือ หลวงพ่อสมปรารถนา ซึ่งเป็นพระประธานที่มีพุทธลักษณ์งดงามเป็นอย่างมาก

ที่อยู่: ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 6.00 – 18.00 น.

Heritage Café & Restaurants

My Grandparent's House บ้านอากงอาม่า

        คาเฟ่บ้านไม้โบราณอายุอานามกว่า 90 ปี ติดกับศาลเจ้าพ่อกวนอูและบ้านจีนโบราณทั่งง่วนฮะ เป็นบ้านเก่าแก่ในย่านคลองสานที่ทุกวันนี้ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ตามปกติ และได้ปรับปรุงบริเวณชั้นล่างให้กลายเป็นคาเฟ่สุดเก๋ริมน้ำ เปิดโอกาสให้มาสัมผัสถึงความสวยงามของบ้านเรือนโบราณและวิถีชีวิตแบบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ควบคู่ไปกับการทานเมนูของหวานและเครื่องดื่มรสชาติดี

ที่อยู่: 253 ซ.สมเด็จเจ้าพระยา 3 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 437 5183
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 10.00 – 18.00 น.

Deep Root

        คาเฟ่ ดิบ เท่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ในชุมชนเก่าย่านสมเด็จเจ้าพระยา อดีตทางผ่านและส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต ซึ่งถูกละเลยจนกลายเป็นจุดทิ้งขยะในชุมชน ทางร้านจึงได้ฟื้นฟูสถานที่แห่งนี้ให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง ด้วยการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นคาเฟ่ ก่อสร้างขึ้นโดยใช้อิฐ และไม้เป็นหลัก ผสมผสานกับรูปแบบของอาคารเดิม ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ประดับด้วยภาพวาดสีสันฉูดฉาดที่ช่วยให้ผนังเก่าดูมีชีวิตชีวาขึ้น สวย เท่  ไม่ซ้ำใคร

ที่อยู่: 255 2 ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
โทร: 095 448 0598
เวลาเปิด – ปิด: ศุกร์ – จันทร์ 10.00 – 20.00 น.

The Jam Factory

        สถานที่ชิลเอาท์จิบกาแฟ แหล่งนัดพบของคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์การเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน อนาคตและชุมชนไว้ด้วยกัน ด้วยการคงไว้ซึ่งโครงสร้างของโกดังเก่า ตกแต่งสวยเก๋ทันสมัย เน้นโทนสีดำ ประกอบด้วย ร้านกาแฟ แกลเลอรีภาพ ร้านหนังสือ และร้านอาหารไทย สามารถมาเดินช้อป ชิม ชิล ได้ตลอดทั้งวัน

ที่อยู่: 41/1-5 ถ.เจริญนคร แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 861 0950
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน 11.00 – 23.00 น.

        ในความทันสมัยที่กำลังเปลี่ยนไปของเมืองหลวงแห่งนี้ ถ้าเปิดตาหันกลับมามองสิ่งดี ๆ ในอดีต ที่สั่งสมมาถึงปัจจุบัน กรุงเทพมหานครของเรา ก็ถือว่าทรงคุณค่าและสวยงาม ไม่น้อยหน้ามหานครใด ๆ ในโลกเลย

Gallery

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *